Test Drive: Mitsubishi Outlander PHEV GT Premium
แรงมั๊ย ประหยัดแค่ไหน !!
เคยเสนอผลการทดสอบกันไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนั้นได้ลองขับกับแบบพื้นที่และระยะทางค่อนข้างจำกัด ได้ผลได้ตัวเลขกันแค่เพียงบางส่วน ครั้งนี้ทีม Plug in ได้ลองขับกันอีกครั้งแบบระยะทางยาวหน่อย มาดูผลการทดสอบครั้งนี้กันครับ
Mitsubishi Outlander
รุ่น GT Premium
ราคา 1,749,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน 2.4L 128 แรงม้า/แรงบิด 199 นิวตันเมตร
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
หน้า 82 แรงม้า/แรงบิด 137 นิวตันเมตร
หลัง 95 แรงม้า/แรงบิด 195 นิวตันเมตร
กำลังรวมเครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า
305 แรงม้า/แรงบิด 531 นิวตันเมตร
ขนาดแบตเตอรี่ 13.8 kWh
หัวชาร์จ AC – Type1
หัวชาร์จ DC – CHAdeMO
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ S-AWC
ช่วงล่างหน้า อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท
ช่วงล่างหลัง อิสระ มัลติลิงค์
ยาว 4,695 มม.
กว้าง 1,800 มม.
สูง 1,710 มม.
ฐานล้อ 2,670 มม.
น้ำหนักรถเปล่า 1,930 กก.
น้ำหนักผู้ทดลองขับ 2 คนรวม 162 กก. เปิดแอร์ตั้งอุณหภูมิ 25 องศา ตลอดการทดสอบ
ความเร็วในการทดลองขับอ้างอิงจาก GPS มาตรวัด 100 กม./ชม. = GPS 96 กม./ชม.
** อัตราเร่ง (โหมด Normal) **
ทดสอบทั้งหมด 5 รอบ ตัวเลขที่ดีที่สุดคือ
0-60 กม./ชม. = 4.68 วินาที (ระยะทางวิ่ง 44 เมตร)
0-100 กม./ชม. = 9.46 วินาที (ระยะทางวิ่ง 153 เมตร)
80-120 กม./ชม. = 6.48 วินาที (ระยะทางวิ่ง 187 เมตร)
ควอเตอร์ไมล์ = 16.96 วินาที (ระยะทางวิ่ง 402 เมตร ที่ความเร็ว 134.94 กม./ชม.)
รู้สึกเหมือนเดิม ที่เคยทดลองขับครั้งที่แล้ว คือ ด้วยแรงม้าระดับ 300 กว่าตัวและแรงบิดระดับเกิน 500 นิวตันเมตร น่าจะได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้ แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เกือบ 2 ตัน และระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา คงมีส่วนพอสมควรที่ทำให้ตัวเลขออกมาไม่หวือหวานัก
** ระดับเสียงภายในห้องโดยสาร (ปิดแอร์) **
ระดับเสียงขณะจอดนิ่ง = 32.5 เดซิเบล
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. = 57.4 เดซิเบล
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. = 58.4 เดซิเบล
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. = 61.7 เดซิเบล
เงียบกว่ารถระดับเดียวกันหลายรุ่น ในขณะความเร็วคงที่เครื่องยนต์ของ Outlander จะทำงานก็แค่เดินเบาเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น ถ้าแบตเตอรี่ยังมีกำลังไฟเพียงพอ เครื่องยนต์ก็จะไม่ทำงาน ความเร็วที่สูงขึ้นระดับเสียงจึงไม่ต่างกันมากนัก การเก็บเสียงถือว่าอยู่ในระดับทำได้ดีทีเดียว เสียงลมที่เข้ามายังห้องโดยสารน้อย หลักๆจะเป็นเสียงยางกระทบกับพื้นถนนมากกว่า เส้นทางทดลองขับเป็นถนนซีเมนต์ หากเป็นถนนลาดยาง ตัวเลขน่าจะต่ำลงกว่านี้
** ระยะทางวิ่งในโหมด EV **
กำลังแบตเตอรี่ 80% – 0%
ที่ความเร็ว 90 กม./ชม. ได้ระยะทาง 51 กม.
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ระยะทาง 40 กม.
ตัวเลขในแคตาล็อกแจ้งไว้ที่ 55 กม. ถือว่าใกล้เคียงความจริง หากขับช้ากว่านี้เช่นเหลือ 60-70 กม./ชม. หรือชาร์จไฟให้เต็ม 100% น่าจะได้ตัวเลขมากกว่าที่แจ้งไว้ พอดีทีมงานมีเวลากับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมง จริงๆอยากลองการใช้งานในโหมด EV ที่หลากหลายรูปแบบกว่านี้
** อัตราการกินน้ำมัน **
ที่ความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม.
อัตราการสิ้นเปลือง = 17.459 กม./ลิตร
ในรถระดับเดียวกันและน้ำหนักตัวขนาดนี้ถือว่าผลออกมาใช้ได้ สำหรับการเดินทางไกลตัวเลขก็จะอยู่ประมาณนี้ แปรผันตามความเร็วรถ แต่สำหรับการขับขี่ในเมือง ใครที่ชีวิตประจำวันใช้รถไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อวัน แนะนำให้ใช้โหมด EV กลับถึงบ้านเสียบปลั๊กชาร์จทุกวัน ลืมการเติมน้ำมันกันไปเลยทีเดียว
รูปโฉม ออฟชั่น ราคา สมรรถนะ อะไรเป็นตัวตัดสินใจในการซื้อรถ อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละท่านกันแล้วหล่ะครับ