Test Drive

Test Drive: Mitsubishi Outlander vs Honda CRV

PHEV น้องใหม่กับ ICE เจ้าตลาด สมรรถนะต่างกันอย่างไร ?

ครั้งนี้เป็นการทดลองขับรถทั้ง 2 รุ่นใน segment เดียวกัน ระหว่างน้องใหม่ (บ้านเรา) Mitsubishi Outlander PHEV และ Honda CRV เจ้าตลาด ทั้งคู่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันคือ แบบเบนซิน 2.4L ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนกัน เราจะแจ้งผลเน้นกันในด้านสมรรถนะ ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาก็แล้วแต่ใครชอบแบบไหน Option อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ มีอะไรบ้างก็ หาอ่าน หาดูข้อมูลกันได้จากหลายแหล่งหลายสื่อกันอยู่แล้วนะครับ

Outlander GT Premium PHEV AWD (1,749,000 บาท)

เครื่องยนต์ 2,360 ซีซี.

128 แรงม้า/แรงบิด 199 นิวตันเมตร

มอเตอร์หน้า 82 แรงม้า/แรงบิด 137 นิวตันเมตร

มอเตอร์หลัง 95 แรงม้า/แรงบิด 195 นิวตันเมตร

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ S-AWC

ช่วงล่างหน้า อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท

ช่วงล่างหลัง อิสระ มัลติลิงค์

ยาว 4,695 มม. (+124)

กว้าง 1,800 มม.

สูง 1,710 มม. (+21)

ฐานล้อ 2,670 มม. (+8)

น้ำหนักรถเปล่า 1,930 กก. (+234)

CRV EL AWD (1,579,000 บาท)

เครื่องยนต์ 2,356 ซีซี.

173 แรงม้า/แรงบิด 224 นิวตันเมตร

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real Time

ช่วงล่างหน้า อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท

ช่วงล่างหลัง อิสระ มัลติลิงค์

ยาว 4,571 มม.

กว้าง 1,855 มม. (+55)

สูง 1,689 มม.

ฐานล้อ 2,662 มม.

น้ำหนักรถเปล่า 1,696 กก.

** การทดสอบอัตราเร่ง **

ทำโดยใช้อุปกรณ์วัด ทั้งหมด 5 รอบใช้ตัวเลขรอบที่ดีที่สุดของแต่ละคันมาเป็นผลการทดสอบ

Outlander (โหมด Normal)

0-80 กม./ชม. = 6.63 วินาที ระยะทางที่ใช้ 83 เมตร

0-100 กม./ชม. = 9.33 วินาที ระยะทางที่ใช้ 151 เมตร

80-120 กม./ชม. = 6.39 วินาที ระยะทางที่ใช้ 184 เมตร

CRV (โหมด Normal)

0-80 กม./ชม. = 7.75 วินาที ระยะทางที่ใช้ 98 เมตร

0-100 กม./ชม. = 11.08 วินาที ระยะทางที่ใช้ 181 เมตร

80-120 กม./ชม. = 7.51 วินาที ระยะทางที่ใช้ 215 เมตร

Outlander ชนะไปอย่างขาดลอย จากการมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อนทั้งหน้าและหลัง ทำให้มีกำลังทั้งแรม้าและแรงบิดที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม Plug in คาดหวังไว้ว่าตามตัวเลขแรงม้าระดับ 300 ตัวและแรงบิดระดับเกิน 500 นิวตันเมตรที่ทางมิตซูบิชิแจ้งไว้นั้น น่าจะได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้ แต่ก็ถือว่าเป็นรถ SUV ครอบครัวที่มีอัตราเร่งดีทีเดียวครับ

ส่วน CRV ลองคิดดูเล่นๆว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเครื่องยนต์ดีเซล (DT-EL) ที่มีแรงบิดสูงกว่าที่รอบการทำงานของเครื่องยนต์ต่ำกว่าตัวเบนซิน ตัวเลขอัตราเร่งคงไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ แต่ราคาค่าตัวก็จะมาอยู่ที่ 1,759,000 บาท ราคาก็จะไม่ต่างอะไรกับ Outlander ซึ่งรถ PHEV จะให้เรื่องความประหยัดค่าน้ำมันและการลดมลพิษไอเสียที่ดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซลอย่างแน่นอน

** การเกาะถนน **

ด้วยการขับแบบสลาลอมที่ความเร็ว 30 และ 60 กม./ชม. และการขับเข้าโค้งกว้างที่ความเร็ว 70 กม./ชม. รถทั้ง 2 รุ่นเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงให้การเกาะถนนที่อยู่ในระดับดีทั้งคู่ จะมีความแตกต่างกันตรง Outlander จะถูกปรับเซ็ทช่วงล่างมาให้นิ่มนวลกว่า ในขณะที่ CRV ตัวถังรถจะโคลงตัวน้อยกว่า แต่ต้องยอมรับว่าระบบ S-AWC ให้การตอบสนองได้ดีทีเดียว ถึงจะรู้สึกโคลงตัวกว่า แต่ก็ยังให้ความรู้สึกมั่นใจแทบจะไม่มีอาการดื้อโค้งเลย ในขณะที่ CRV ยังมีอาการนี้อยู่บ้าง

** ความกว้างภายในห้องโดยสาร **

ในส่วนของที่นั่งคู่หน้าไม่มีความแตกต่างมากนัก แต่ในส่วนของที่นั่งคู่หลัง Outlander จะมีพื้นที่ headroom มากกว่า โดยเฉพาะทีม Plug in ที่มีความสูงเกิน 180 ซม. เข้าไปนั่งเบาะหลัง CRV หัวติดหลังคากันเลยทีเดียว ในขณะที่ Outlander ยังมีพื้นที่เหลือ ส่วนด้านท้าย CRV จะมีเบาะนั่งแถวที่ 3 มาให้สามารถพับเก็บวางสัมภาระได้ ส่วน Outlander มีเบาะแค่เพียง 2 แถว เนื่องจากถูกมอเตอร์ล้อหลังและชุดควบคุม เบียดบังพื้นที่ไปพอสมควร

** ระดับเสียงภายในห้องโดยสาร **

Plug in วัดระดับเสียงในห้องโดยสาร 2 รูปแบบ

ระดับเสียงขณะจอดนิ่ง (ปิดแอร์): Outlander = 35.5 เดซิเบล / CRV = 41.1 เดซิเบล

ระดับเสียงสูงสุดขณะเร่ง 0-100 (ปิดแอร์): Outlander = 60.6 เดซิเบลn/ CRV = 71.4 เดซิเบล

ความเงียบภายในห้องโดยสารของ Outlander เงียบกว่าทั้งขณะจอดนิ่ง และโดยเฉพาะเมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์ โดยที่เครื่องยนต์ของรถทั้ง 2 รุ่นทำงานในขณะเหยีบคันเร่งสุดเหมือนกัน CRV จะมีเสียงดังในห้องโดยสารมากกว่าอย่างชัดเจน ไม่ต้องใช้เครื่องวัดก็ได้ยินความแตกต่างได้

ก็เป็นข้อมูลโดยสรุปเท่าที่ Plug in ได้มีโอกาสทดลองขับนะครับ น่าจะพอเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถใน segment นี้อยู่บ้าง โดยเฉพาะหลายท่านที่กำลังลังเลว่าจะซื้อรถแบบเครื่องยนต์ล้วนๆเหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนเป็นรถพลังงานทางเลือกประเภทอื่นๆ

จริงๆแล้วถ้าจะให้เป็นมวยถูกคู่ ต้องเปรียบเทียบระหว่าง Outlander PHEV กับรถ PHEV ด้วยกันจึงจะถูกแบบถูกรุ่น มีโอกาสเมื่อไหร่จะเอาผลทดสอบมาให้เป็นข้อมูลกันครับ